บทบาทเอปต้าในฟิลิปปินส์ ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

เอปต้าเข้าร่วมโครงการสำคัญในฟิลิปปินส์ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้แบรนด์ Iarp และ Bonnet Névé ในโครงการ “ความร่วมมือระดับนานาชาติในการปรับปรุงห่วงโซ่อาหารเย็นในฟิลิปปินส์”

เอปต้ามีส่วนสนับสนุนในการสร้างระบบนิเวศที่มีความเป็นเอกลักษณ์ มีการรวบรวมทรัพยากรและความรู้ทางเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผ่านแพลตฟอร์ม Cold Chain Innovation Hub (CCI-Hub) อย่างเป็นทางการ

อีกเป้าหมายหนึ่งของโครงการคือการฝึกอบรมและการแบ่งปันความรู้ ซึ่งจำเป็นต่อการส่งเสริมการใช้สารทำความเย็นตามธรรมชาติในฟิลิปปินส์

เพิ่มความตื่นตัวต่อ Cold Chain

เมื่อสองปีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับพันธสัญญาที่ทำไว้กับพันธมิตรรายอื่นๆ และด้วยความร่วมมือกับ TESDA (หน่วยงานการศึกษาด้านเทคนิคและการพัฒนาทักษะของฟิลิปปินส์) Cold Chain Innovation Hub ได้เริ่มก่อตั้งขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์หลายประการ โดยมีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสัมมนาออนไลน์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแจ้งเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษซึ่งในไม่ช้าก็พัฒนาเป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างครบถ้วน

Glee แบรนด์ Iarp และ Onwave แบรนด์ Bonnet Névé: ตู้แช่เย็นแนวตั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับ CCI-Hub

ในช่วงสัปดาห์เทคโนโลยี หลายภาคส่วนใน Food Cold Chain ได้มารวมตัวกัน โดยเอปต้า ได้นำเสนอระบบที่ทันสมัยที่สุด นั้นคือระบบทำความเย็นแบบยั่งยืนแก่ผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น

เทคโนโลยีเหล่านี้จะมารวมกันในศูนย์กลางที่ TESDA กำลังจัดตั้งขึ้นในไม่ช้า และ Epta ได้ร่วมบริจาคตู้แช่เย็นแนวตั้งที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสองตู้ ได้แก่ ตู้ปลั๊กอิน Glee และ Onwave ภายใต้แบรนด์ Iarp และ Bonnet Névé ตามลำดับ

โครงการนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

ขณะนี้ ด้วยแผนปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา โดยการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

โครงการ “ความร่วมมือระดับนานาชาติในการปรับปรุงห่วงโซ่อาหารเย็นในฟิลิปปินส์” มีด้วยกันสามระดับ:

• ประการแรก เกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและข้อบังคับใช้เทคโนโลยีการปล่อยมลพิษต่ำและประหยัดพลังงานใน food cold chain
• ประการที่สอง มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักและการฝึกอบรมในการเพิ่มทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อ Food Cold Chain
• ประการที่สาม เน้นไปที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเชิงกลยุทธ์

และเอปต้าก็เป็นหนึ่งในนั้น

เอปต้ากรุ๊ป ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าการเป็นแนวหน้าในการปกป้องโลกใบนี้ หมายถึงการตระหนักรู้ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากการมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว ยังต้องการการสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกด้วย